Has Art Gallery

Has Art Gallery
B314 Central World Plaza, Bangkok

Photo Gallery

Photo Gallery
Has Art Gallery, B314 Central World Plaza, Bangkok

Suwan Khanboon 67 (80x120 cm)

Suwan Khanboon 67 (80x120 cm)
Abstract Style Oil painting

Niran Paijit 9 (25x30")

Niran Paijit 9 (25x30")
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY NIRAN PAIJIT, SIZE 20 x 24"

Morakot Saengburin 14 (24x36)

Morakot Saengburin 14 (24x36)
Original handpainted oil painting on canvas

Supot 5 (80x100 cm)

Supot 5 (80x100 cm)
Original handpainted oil painting on canvas by Supot Charoenporn

Vanna Yoo-Kong 23 (16x24")

Vanna Yoo-Kong 23 (16x24")
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY VANNA YOO-KONG, SIZE 16 x 24"

Udom Poh-Klad 97 (24x36")

Udom Poh-Klad 97 (24x36")
ORIGINAL HANDPAINTED IMPRESSIONIST OIL PAINTING BY UDOM POH-KLAD, SIZE 24 x 36"

Rat Kamsrisuk 20 (24x36")

Rat Kamsrisuk 20 (24x36")
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY RAT KAMSRISUK, SIZE 24 x 36"

Chavana Boonchoo 5 (24x32")

Chavana Boonchoo 5 (24x32")
ORIGINAL HANDPAINTED OIL PAINTING BY CHAVALIT (PONG), SIZE 24 x 28"

วิดีโอแสดงความสามารถของ Apple iPhone 4S



       ฟิล ชิลเลอร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ แอปเปิล กล่าวว่า สำหรับ iPhone 4S จะเป็นการปรับเปลี่ยนแบบ Minor Change ที่ยังคงรูปทรงและหน้าตาแบบเดิม (ไอโฟน 4) แต่ในส่วนของสเปกจะมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องหน่วยประมวลผลเป็น Apple A5 Dual Core พร้อมกราฟิกชิปแบบคู่ ที่ทางแอปเปิลการันตีว่าจะเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 เท่า ส่วนกราฟิกจะเร็วขึ้น 7 เท่า

สำหรับกล้องถ่ายภาพนิ่งใน iPhone 4S จะมีการอัปเกรดความละเอียดเพิ่มเป็น 8 ล้านพิกเซล (3,264 x 2,448 พิกเซล) สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด FullHD 1080p พร้อมเซ็นเซอร์รับภาพแบบ Backside illumination ส่วนรูรับแสงจะอยู่ที่ f/2.4 เลนส์กระจก 5 ชิ้น และฟิลเตอร์กรองภาพ Hybrid IR filter ที่ช่วยให้ภาพมีสีที่สดใสและสัญญาณรบกวนน้อยลง อีกทั้งตัวกล้องยังมาพร้อมระบบ Face Detection และระบบลดการสั่นไหวของภาพขณะถ่ายวิดีโอ

ด้านจุดเด่นนอกเหนือความสามารถฮาร์ดแวร์ที่เพิ่มขึ้นและระบบปฏิบัติการ iOS 5 แล้ว ฟิลล์ อธิบายว่า iPhone 4S ยังมีความสามารถเด่นอยู่ที่ระบบ Siri ที่เป็นการเพิ่มความอัจฉริยะให้ไอโฟนให้สามารถสนทนากับผู้ใช้ผ่านการประมวลผลจาก AI เช่น ถ้าถาม Siri ว่า “วันนี้อากาศเป็นอย่างไร Siri จะตอบโดยอิงข้อมูลจากแอปฯ สภาพอากาศว่า ตอนนี้ฝนตก หรือจะให้ Siri หาเส้นทาง Siri ก็สามารถทำได้” โดยตอนนี้ภาษาที่รองรับกับ Siri จะมีอยู่ 3 ภาษาคือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน

ส่วนด้านประสิทธิภาพการรองรับเครือข่ายโทรศัพท์ ชิลเลอร์กล่าวว่า ใน iPhone 4S ทางแอปเปิลได้แก้ไขปัญหาเรื่องการรับสัญญาณให้ดีขึ้น นอกจากนั้น iPhone 4S ยังถูกปรับเปลี่ยนเป็น World Phone กล่าวคือ จะสามารถรองรับเครือข่ายโทรศัพท์ GSM และ CDMA ในเครื่องเดียว และทางแอปเปิลยังได้อัปเกรดความเร็วดาวน์โหลด 3G เพิ่มอีก 2 เท่าจากรุ่นเดิมที่รับความเร็วได้เพียง 7.2Mbps ขยายเป็น 14.4Mbps

อีกทั้งยังได้เพิ่มความจุของแบตเตอรี่ให้สามารถสนทนาผ่านเครือข่าย 3G ได้ 8 ชั่วโมง 2G 14 ชั่วโมง ส่วนการเล่นเว็บเบราว์เซอร์สำหรับการใช้ดาต้า 3G จะสามารถเล่นได้ 6 ชั่วโมง ผ่าน WiFi ได้ 9 ชั่วโมง และสุดท้ายการเล่นไฟล์มัลติมีเดียสำหรับวิดีโอจะสามารถเล่นได้ 10 ชั่วโมง ส่วนเพลงจะเล่นได้ 40 ชั่วโมง

ด้านระบบปฏิบัติการที่มาพร้อม iPhone 4S ก็เป็นไปตามคาด คือ iOS 5 (ที่ปัจจุบันปล่อยให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันของแอปเปิลดาวน์โหลดฟรี) โดยจุดเด่นของระบบปฏิบัติการนี้อยู่ที่ระบบ iCloud และการทำให้อุปกรณ์ iOS Device เป็น PC Free ทำให้ในอนาคตผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อไอจูนเพื่อซิงค์ข้อมูล รวมถึงการอัปเดต iOS หรือแอปฯ ต่างๆ สามารถทำที่ iOS Device ได้โดยตรง

นอกจากนั้นระบบปฏิบัติการ iOS 5 ยังสามารถใช้งานร่วมกับ iPhone 4, 3Gs, iPad 2, iPad, iPod Touch Gen4th และ iPod Touch Gen 3rd โดยทางแอปเปิลจะเปิดให้อัปเดตอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ตุลาคม

สำหรับราคาเปิดตัว iPhone 4S จะอยู่ที่ 16GB 199 ดอลลาร์, 32GB 299 ดอลลาร์ และ 64GB 399 ดอลลาร์ ส่วน iPhone 4 มีการปรับราคาใหม่เริ่มตั้งแต่ 8GB 99 ดอลลาร์ และ iPhone 3GS 8GB แบบไม่คิดค่าเครื่องแต่ผูกสัญญา 2 ปี

โดยทยอยวางจำหน่ายใน 7 ประเทศหลักได้แก่ สหรัฐฯ แคนนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และญี่ปุ่น วันที่ 14 ตุลาคม 2554 และอีก 22 ประเทศแบบไร้เงาประเทศไทยในวันที่ 28 ตุลาคม

**ไอพอดอัปเดตใหม่ - นาโนหั่นราคาลง**

นอกจากจะมีการเปิดตัว iPhone 4S ในส่วนของ iPod ก็ยังมีการปรับเปลี่ยนตาม โดยในส่วนของ iPod Nano ทางแอปเปิลจะมีการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ใหม่ที่ทำให้ iPod Nano สามารถแสดงไอคอนได้ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงในเรื่องของ Nike+ ให้สามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องพึ่ง Dongles พร้อมหั่นราคา 8GB จากเดิม 149 ดอลลาร์ เหลือ 129 ดอลลาร์ ส่วน 16GB 179 ดอลลาร์ เหลือ 149 ดอลลาร์

ส่วน iPod Touch จะสามารถอัปเดตระบบปฏิบัติการเป็น iOS 5 ได้ในวันที่ 12 ตุลาคม โดยจะมาพร้อมฟีเจอร์ iMessage และ Game Center และราคาอยู่ที่ 8GB 199 ดอลลาร์, 32GB 299 ดอลลาร์, 64GB 399 ดอลลาร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น